“ไส้กรอก” คำสั้นๆ ที่ทำให้ใครหลายคนตาวาว แต่ก็ต้องแอบกลืนน้ำลายตามด้วยความรู้สึกผิดเบาๆ… เราทุกคนรักรสชาติที่คุ้นเคย กลิ่นหอมๆ ตอนทอดหรือย่าง แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงกระซิบในหัวว่า “กินเยอะอ้วนนะ” “ไขมันทั้งนั้น” “โซเดียมสูง”
ตกลงแล้ว ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่? การเป็นคนรักไส้กรอกกับการมีสุขภาพดีมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ หรือ? วันนี้เราจะมาไขทุกข้อข้องใจกันแบบชัดๆ ครับว่าการกินไส้กรอกบ่อยๆ อ้วนจริงไหม และมีวิธี “เลือกกินอย่างฉลาด” อย่างไรให้อร่อยได้แบบไม่รู้สึกผิด!
คำตอบสั้นๆ: กินไส้กรอกอ้วนไหม?
คำตอบที่ตรงที่สุดคือ “ขึ้นอยู่กับว่าคุณกินอย่างไร” ครับ ตัวไส้กรอกเองไม่ได้ถูกสร้างมาให้เป็นศัตรูกับรอบเอว แต่ “ประเภท” ของไส้กรอก, “ปริมาณ” ที่คุณกิน, และ “วิธีปรุง” ต่างหากที่เป็นตัวกำหนดว่ามื้อนั้นจะทำให้อ้วนหรือไม่
เจาะลึก “3 ตัวร้าย” ที่ซ่อนอยู่ในไส้กรอกทั่วไป
ที่ไส้กรอกถูกมองว่าเป็นอาหารขยะ เพราะส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะสูตรที่เน้นราคาถูก) มักจะมี 3 สิ่งนี้ในปริมาณที่สูงครับ
ไขมัน (โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว)
ไส้กรอกสูตรดั้งเดิม (เช่น ไส้กรอกหมู) มักมีสัดส่วนของมันหมูผสมอยู่เยอะเพื่อให้เนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำ ซึ่งไขมันนี่แหละครับที่เป็นแหล่งพลังงานแคลอรี่ชั้นดีที่ทำให้เราอ้วนง่าย
โซเดียม (Sodium)
ความเค็มอร่อยกลมกล่อมมักต้องแลกมาด้วยโซเดียมที่สูงปรี๊ด การกินโซเดียมมากเกินไปไม่ได้ทำให้อ้วนจากไขมันโดยตรง แต่จะทำให้ร่างกาย “บวมน้ำ” (Bloating) และยังไม่ดีต่อสุขภาพไตในระยะยาวด้วย
แป้ง (Flour)
ในไส้กรอกราคาถูกหลายยี่ห้อ ผู้ผลิตมักใช้ “แป้ง” (เช่น แป้งมัน, แป้งสาลี) เป็นสารเพิ่มปริมาณและลดต้นทุนเนื้อสัตว์ นั่นหมายความว่า แทนที่คุณจะได้โปรตีน คุณกลับได้คาร์โบไฮเดรตส่วนเกินมาแทน
ไส้กรอกไม่ได้เลวร้ายเสมอไป: ด้านดีๆ ของ “โปรตีน”
ท่ามกลางไขมันและโซเดียม ไส้กรอกก็ยังมีข้อดีอยู่ นั่นคือ “โปรตีน” จากเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและทำให้อิ่มท้องได้นาน ดังนั้น ถ้าเราเลือกไส้กรอกที่ “มีโปรตีนสูง แป้งน้อย และไขมันต่ำ” มันก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารสุขภาพได้เช่นกัน
ตารางเทียบแคลอรี่: ไส้กรอกแต่ละชนิด… ใครคือ “แชมป์” พลังงาน?
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองมาดูแคลอรี่และไขมันโดยประมาณ (ต่อ 100 กรัม) ของไส้กรอกแต่ละประเภทกันครับ
| ประเภทไส้กรอก | แคลอรี่โดยประมาณ (kcal) | ไขมันโดยประมาณ (g) |
| ไส้กรอกหมู (ทั่วไป) | 250 – 350 | 25 – 35 |
| ไส้กรอกอีสาน (สูตรข้าว) | 180 – 250 | 10 – 20 |
| ไส้กรอกไก่ (ทั่วไป) | 150 – 250 | 15 – 25 |
| ไส้กรอกปลา | 100 – 150 | 5 – 10 |
| ไส้กรอก อกไก่ (สูตรลีน) | 90 – 130 | < 5 |
(หมายเหตุ: ตัวเลขเป็นค่าประมาณการโดยเฉลี่ยเท่านั้น ควรอ่านฉลากโภชนาการของผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อเสมอ)
ทำไมคุณถึงวางใจในข้อมูลของเราได้?
ในฐานะทีมงานที่หลงใหลในอาหาร เราก็เป็นคนหนึ่งที่เจอปัญหานี้ครับ คือรักรสชาติของไส้กรอก แต่ก็กังวลเรื่องสุขภาพ เราจึงไม่ใช่แค่อ่านข้อมูล แต่เรา “ลงมือ” อ่านฉลากโภชนาการแทบทุกยี่ห้อในตลาด ทดลองปรุงด้วยวิธีต่างๆ และพูดคุยกับผู้ผลิตที่ใส่ใจในคุณภาพอย่าง StarUp เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรคือหัวใจของไส้กรอกที่ดี คำแนะนำเหล่านี้จึงกลั่นกรองมาจากประสบการณ์จริงของ “คนกิน” ที่อยากแบ่งปันให้ “คนกิน” ด้วยกันครับ
ประสบการณ์ตรง: จากคนเคยกินแบบผิดๆ สู่การกินแบบฉลาด
ผมเคยเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าการกินไส้กรอกทอดน้ำมันท่วม 5 ไม้ตอนดึกๆ คือความสุข แต่ผลลัพธ์คือความรู้สึกผิดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่ผมไม่ได้ “เลิก” กินครับ ผมแค่ “เปลี่ยน”
ผมเปลี่ยนจากไส้กรอกหมูทอด มาเป็น “ไส้กรอกอกไก่” 2 ชิ้น ที่เอาไปจี่ในกระทะเทฟลอน กินคู่กับสลัดผักชามโตในมื้อเช้า ผลลัพธ์คือ ผมยังคงได้ความอร่อยที่อยาก แต่รู้สึกอิ่มนานขึ้น สบายท้องขึ้น และไม่รู้สึกผิดต่อร่างกาย นี่คือ “การกินอย่างฉลาด” ที่เราอยากให้คุณได้ลอง
5 เคล็ดลับ “เลือกซื้อ” ไส้กรอกฉบับคนกลัวอ้วน
พลิกอ่านฉลากโภชนาการ
นิสัยนี้สำคัญที่สุด! อย่าเชื่อแค่คำโฆษณาหน้าซอง ให้พลิกดู “ตารางโภชนาการ” (Nutrition Facts) เปรียบเทียบแคลอรี่, ไขมัน, และโซเดียม ระหว่างยี่ห้อ แล้วเลือกยี่ห้อที่ต่ำที่สุด
เลือก “ชนิด” ที่ลีนกว่า
จากตารางข้างบน เราจะเห็นชัดว่า “ไส้กรอกอกไก่” หรือ “ไส้กรอกปลา” เป็นตัวเลือกที่มีไขมันและแคลอรี่ต่ำกว่าไส้กรอกหมูอย่างเห็นได้ชัด
เช็กเปอร์เซ็นต์ “แป้ง” (หรือสัดส่วนเนื้อ)
ดูที่ฉลากส่วนผสม (Ingredients) ส่วนผสมที่ระบุเป็นอันดับแรกคือส่วนผสมที่มีมากที่สุด ไส้กรอกที่ดีควรขึ้นต้นด้วย “เนื้อไก่”, “เนื้ออกไก่” ไม่ใช่ “แป้ง” หรือ “โปรตีนเกษตร”
3 เทคนิค “การปรุง” ที่ช่วยลดแคลอรี่ (ไม่เพิ่มไขมัน)
เลือกมาดีแล้ว อย่ามาพังตอนปรุงครับ!
หนีไป! จากการทอดน้ำมันท่วม
การทอดแบบ Deep-fry คือการเพิ่มแคลอรี่และไขมันทรานส์โดยไม่จำเป็น
อบ ย่าง หรือใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน
วิธีเหล่านี้คือมิตรแท้ของสายสุขภาพ เพราะความร้อนจะช่วย “รีด” ไขมันส่วนเกินบางส่วนออกจากตัวไส้กรอก แทนที่จะ “เพิ่ม” เข้าไป
เทคนิคต้มก่อนจี่ (ทอดด้วยน้ำ)
นำไส้กรอกใส่กระทะ เติมน้ำเล็กน้อยแล้วปิดฝา พอน้ำแห้งไส้กรอกจะสุกนุ่ม และไขมันจากตัวไส้กรอกจะออกมาเอง ค่อยจี่ต่อเล็กน้อยให้ผิวตึงสวย โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเพิ่มเลย
กิน “ไส้กรอก” เวลาไหนดีที่สุด?
พยายามกินไส้กรอกเป็น “ส่วนหนึ่งของมื้อหลัก” ไม่ใช่ “ของว่าง” โดยเฉพาะมื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน เพราะโปรตีนจากไส้กรอกจะช่วยให้คุณอิ่มท้องไปได้นาน ลดการกินจุกจิกระหว่างวัน การกินไส้กรอกทอดเป็นของว่างตอน 4 ทุ่ม… นั่นแหละครับตัวการทำให้อ้วน
จับคู่ “ไส้กรอก” กับอะไร… ไม่ให้อ้วน
แทนที่จะกินไส้กรอกคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ ขนมปังขาว หรือน้ำอัดลม ให้ลองจับคู่แบบฉลาดๆ ดังนี้:
- ไส้กรอก + สลัดผักชามโต (เพิ่มไฟเบอร์)
- ไส้กรอก + ไข่ต้ม/ไข่คน (เพิ่มโปรตีนลีน)
- ไส้กรอก + อะโวคาโด (เพิ่มไขมันดี)
StarUp Foods: ทางเลือกของไส้กรอกคุณภาพที่เข้าใจคนรักสุขภาพ
การจะเลือกไส้กรอกที่ดีได้ ต้องเริ่มต้นจากผู้ผลิตที่ใส่ใจในคุณภาพ StarUp (บริษัท สตาร์ เอ็กซ์พอร์ท (ประเทศไทย) จำกัด) คือผู้เชี่ยวชาญด้านไส้กรอกและอาหารแปรรูปแช่แข็งคุณภาพพรีเมียม
เราเข้าใจความกังวลของคนรักสุขภาพ เราจึงมุ่งมั่นผลิตไส้กรอกที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ “ไส้กรอกไก่” และ “ไส้กรอกอกไก่” ที่เน้นสัดส่วนเนื้อสัตว์สูง โปรตีนแน่น และผลิตภายใต้โรงงานที่ได้มาตรฐานสากล GMP และ HACCP นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกไก่ของเรายังได้รับการรับรอง ฮาลาล (Halal) ทำให้คุณมั่นใจได้ในทุกคำว่า อร่อย สะอาด และปลอดภัย
ข้อมูลติดต่อ Starupfoods
- ที่อยู่: 4/201 ซอยอนามัยงามเจริญ 11 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150
- โทรศัพท์: 093 535 5556
- LINE: @salesstarup
- อีเมล: info@starupfoods.com
- เว็บไซต์: starupfoods.com
- เวลาทำการ: 8.00 – 17.00 น. (หยุดทำการวันอาทิตย์)
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
อ้วนยากกว่ามากครับ เพราะไส้กรอกอกไก่มีไขมันและแคลอรี่ต่ำกว่าไส้กรอกหมูทั่วไปหลายเท่า แต่ก็ยังต้องทานในปริมาณที่พอเหมาะและดูฉลากโภชนาการประกอบ
ไส้กรอกอีสานมีข้อดีคือไขมันอาจจะไม่สูงเท่าไส้กรอกหมู แต่ก็มีคาร์โบไฮเดรตจาก “ข้าว” ที่ผสมอยู่ จึงควรทานในปริมาณที่พอดี และเลี่ยงการทอดน้ำมันท่วมครับ
ไม่มีกฎตายตัว แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ควรกินสลับกับแหล่งโปรตีนธรรมชาติอื่นๆ (เช่น อกไก่สด, ปลา, ไข่) การกินไส้กรอก (แม้จะเป็นสูตรลีน) 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมครับ
มีจริงครับ ในความหมายที่ว่า “คลีนกว่า” ตัวเลือกทั่วไป โดยมองหาไส้กรอกที่ทำจากเนื้อสัตว์เกือบ 100% (ไม่ผสมแป้ง) ไขมันต่ำ โซเดียมต่ำ และไม่ใส่สารกันเสียหรือไนไตรท์ (Nitrites)
การบริโภคโซเดียมมากเกินไปเป็นประจำไม่ดีต่อสุขภาพไตและความดันโลหิต ควรอ่านฉลากและเลือกยี่ห้อที่มีโซเดียมต่ำ และดื่มน้ำตามมากๆ ในวันที่ทานครับ
References
เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่รอบด้านและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมแหล่งข้อมูลอ้างอิงคุณภาพไว้ดังนี้:
- Harvard T.H. Chan School of Public Health: ข้อมูลเกี่ยวกับโปรตีนและเนื้อสัตว์แปรรูป (ภาษาอังกฤษ) https://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/what-should-you-eat/protein/
- POPSUGAR Fitness – “Are Sausages Healthy?”: บทความเกี่ยวกับการเลือกไส้กรอกเพื่อสุขภาพ (ภาษาอังกฤษ) https://www.popsugar.com/fitness/Are-Sausages-Healthy-47209867
- สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ): แหล่งข้อมูลความรู้สุขภาพสำหรับคนไทย https://www.thaihealth.or.th/
